ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าลองได้รักใครแล้วส่วนใหญ่ก็มักจะจ้องโดนคนรอบข้างเม้าท์ว่า นี่ล่ะน้า....ความรักทำให้คนตาบอด รักจนหัวปักหัวปำ รักจนโงหัวไม่ขึ้น แล้วอีกสารพัดรัก ในเอนทรี่นี้เราไม่อยากให้คุณๆทั้งหลายต้องชีช้ำกะหล่ำปลีด้วยคำพูดเหล่านั้น เลยต้องรีบนำวิธีสร้างรักอย่างชาญฉลาดมาบอกต่อกันสักนิดสักหน่อยแล้วล่ะค่ะ
ใช้ชีวิตให้คุ้ม
แน่นอนว่าคนเราคงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ยังอยากทำ อยากลองอีกมากมาย ซึ่งการยึดติดกับใครสักคนจนลืมความอยากและทิ้งความฝันของตัวเองไปคงไม่ใช่เรื่องดีนัก ถึงแม้ว่าคุณจะมีคนรักก็ไม่ควรที่จะยึดติดกับเขามากจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการกระทำหรือคำพูด เช่น เราอยากทำแบบนี้แต่เขาห้าม หรือยอมทำในสิ่งที่เขาอยากให้ทำทั้งๆที่เราไม่ชอบ เป็นต้น
เปลี่ยนตัวเองเพื่อใครสักคน
ถ้าเราไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง ก็อย่าหวังว่าใครจะมองเห็นเลย ประโยคนี้น่าจะใช้ได้ดีกับคนมีรักแบบยอมทุกอย่างเพื่อคนๆเดียว ไม่ใช่เรื่องดี เมื่อเรายอมเปลี่ยนทุกอย่างเพื่อเขาแล้ว ใช่ว่าเขาจะรักคุณเหมือนวันแรกที่เจอ ไม่แน่เขาอาจจะหมดความสนใจในตัวคุณก็ได้ ผู้ชายมักชอบจินตนาการให้ผู้หญิงเป็นแบบที่เขาชอบ ถ้าคุณยอมเปลี่ยน แต่แล้ววันหนึ่งคุณกลับทนสภาพนั้นไม่ได้เอง ความผิดหวังก็จะตามมาอย่างมากมาย ดังนั้นควรให้เขารักในแบบที่คุณเป็นนั่นแหละดีแล้ว
อย่าคิดที่จะเปลี่ยนแปลงเค้า
ในเมื่อเราเองก็ไม่ได้อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาเองก็คงไม่อยากจะเปลี่ยนตัวเองเหมือนกัน จึงควรคิดเสมออว่า ไม่มีใครจะเปลี่ยนแปลงเขาได้ นอกเสียจากเขาต้องการจะทำเช่นนั้นเอง ฉะนั้นอย่าเสียเวลาในการขอร้องให้เขาเปลี่ยนแปลงเลย
ผู้ชายแสนดีไม่จำเป็นต้องหล่อ
หากคนที่คุณคบอยู่เป็นคนดี ติดเพียงแค่เขาไม่ใช่หนุ่มหล่อในสเปกของคุณ ก็อย่าเพิ่งรีบปิดโอกาสทั้งของคุณและของเขา ลองมองข้อดีของเขาและมองถึงอนาคตก่อนว่า คุณจะมีความสุขมากน้อยแค่ไหน เมื่อใช้ชีวิตอยู่กับเขา เขาจะสามารถปกป้องดูแลคุณได้ดีกว่าผู้ชายในอุดมคติของคุณหรือไม่ ถ้าพอเป็นไปได้ก็ลองคบเลยค่ะ อย่าปล่อยให้หลุดลอย มิฉะนั้นจะมาเสียใจภายหลังไม่ได้นะค่ะ
คนรัก=เพื่อนที่แสนดีคนหนึ่ง
การเป็นคนรักไม่ได้หมายความว่าเป็นเพื่อนกันไม่ได้ ที่บอกเช่นนี้ เพราะคนเรายอมเปิดอกคุยกับเพื่อนมากกว่าคนรัก เราจึงอยากให้คุณให้ความสัมพันธ์กับคนรักเหมือนเพื่อนคู่คิดด้วย แม้ในบางครั้งเขาจะไม่สามารถช่วยคุณแก้ปัญหาได้ แต่ก็เชื่อว่าเขาน่าจะเป็นผู้ฟังที่ดีได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ใช่ว่าคุณจะยัดเยียดเอาทุกปัญหาไปเล่าให้เขาฟังเสียหมดล่ะ เพราะผู้ชายเขาก็มีลิมิทในการรับฟังนะจ๊ะ
ความรักคือการให้ที่เท่าเทียมกัน
การที่ต่างฝ่ายต่างมอบความห่วงใยซึ่งกันและกันอยู่เสมอเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นได้เพียงแค่ผู้ให้ แต่ไม่เคยเป็นผู้รับ(ความรัก)เลย นานวันเข้าก็อาจรู้สึกอึดอัดและส่งผลเสียต่อความรักในระยะยาวได้ตลอดเวลา เพียงแค่ความห่วงใยที่มีให้กันเล็กๆ น้อยๆ เช่น ส่ง SMS ข้อมความดีๆ บอกรักกันวันละครั้ง ให้ดอกไม้ ทำอาหารเช้าให้ทาน ชวนกันไปเดินเล่น ฯลฯ ก็ย่อมทำให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงการเป็นผู้รับได้
ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว
การคบกันไม่จำเป็นต้องอาศัยอยู่ด้วยกันตลอดเวลา คนเราควรมีพื้นที่ให้ตัวเองและอีกฝ่ายด้วย อย่างคุณเองก็ต้องการจะไปไหนมาไหนกับเพื่อนผู้หญิง เขาเองก็อาจจะอยากมีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้าง หรือแม้แต่การมีเวลาว่างของแต่ละคน จึงไม่ควรจุกจิกกับอีกฝ่ายมากเกินไป
งานบ้านไม่ใช่หน้าที่เฉพาะผู้หญิง
อย่ากลัวที่จะขอให้เขาช่วยทำงานบ้านบ้าง เพราะการใช้ชีวิตคุ๋คือการช่วยเหลือแบ่งเบาซึ่งกันและกัน ถึงแม้เขาจะไม่เคยทำมาก่อน แต่ถ้าคุณลองให้เขาช่วยงานคุณเบาๆ เป็นการเริ่มต้นก็น่าจะเป็นเรื่องดี และถ้าเขาลองทำดูแล้วแต่เกิดปัญหาว่าเขาไม่เป็นอย่างที่คุณคิด ก็อย่าเพิ่งรำคาญใจไป เพราะของอย่างนี้อยู่ที่การฝึกฝนและกำลังใจ อย่าลืมว่าการช่วยกันทำงานบ้านถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ให้กระชับขึ้นด้วยเช่นกัน
เรื่องของเซ็กซ์
ก่อนที่คุณจะยอมสนิทสนมกับใครสักคนทางกาย คุณควรรู้จักตัวตนของเขาจริงๆเสียก่อน และควรจะแน่ใจด้วยว่าหากคุณมีเพศสัมพันธ์กับเขาแล้ว ชีวิตของคุณจะปลอดภัยทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น ไม่ติดโรคร้าย หรือเขายอมรับคุณเป็นภรรยา เป็นต้น พยายามอย่าหลงคารมต่อคำว่ารัก หรือแม้กระทั่งรูป รส กลิ่น เสียง สรรพสิ่งที่เขาจะมอบให้หลังคุณยอมเป็นของเขา ทางที่ดีเรื่องแบบนี้ควรรอให้ถึงวันแต่งงานจะดีกว่า
ความผูกพันของคนสองคนต้องการเวลาและมีขั้นตอนในการพัฒนาตนเอง ดังนั้นอย่าปล่อยให้ใครคนใดคนหนึ่งเป็นผู้บงการความรัก แต่จงประคับประคองความรักให้ค่อยๆ ก้าวไปด้วยกันจะดีกว่านะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น